สมัยสุโขทัย พ.ศ.๑๗๙๒-๑๙๘๑
การปกครองของอาณาจักรสุโขทัยในระยะแรกเป็นการปกครองแบบ พ่อปกครองลูก คือ กษัตริย์เป็นพ่อที่ให้ความคุ้มครองป้องกันภัยและส่งเสริมความสุขให้ประชาชน ประชาชนในฐานะที่เป็นบุตรมีหน้าที่ให้ความเคารพและเชื่อฟังพ่อขุนมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นลักษณะการปกครองดังกล่าวคือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชโปรดเกล้าให้แขวนกระดิ่งไว้ที่ประตูวัง สำหรับให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อนมาสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์โดยตรง
ต่อมาเมื่อสุโขทัยติดต่อกับเมืองนครศรีธรรมราชทำให้ได้รับพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์เข้ามา ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบการปกครองอาณาจักร คือ พระมหากษัตริย์ทรงปกครองตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกว่า ธรรมราชา โดยยึดหลักทศพิธราชธรรมเป็นแนวทางในการปกครองของพระมหากษัตริย์
การปกครองราชธานีและหัวเมืองต่างๆ
เมืองลูกหลวง
เป็นเมืองหน้าด่านที่อยู่รายล้อมเมืองหลวงทั้ง ๔ ทิศ เมืองเหล่านี้พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งให้เชื้อพระวงศ์ไปปกครองเมืองหลวงและเมืองลูกหลวงรวมกันเรียกว่า ราชธานี
ทิศเหนือ ศรีสัชนาลัย
ทิศตะวันออก สองแคว (พิษณุโลก)
ทิศตะวันตก กำแพงเพชร
ทิศใต้ สระหลวง
การปกครองหัวเมือง
หัวเมือง คือ เมืองที่อยู่รอบนอกอาณาเขตของเมืองหลวง ซึ่งมีอยู่ ๒ ลักษณะ
1. หัวเมืองชั้นนอกเมืองที่อยู่ห่างไกลสุโขทัยหรืออยู่รอบนอกอาณาเขตของเมืองหลวง
2. หัวเมืองประเทศราชเป็นเมืองภายนอกพระราชอาณาจักร มีกษัตริย์ของตนเองปกครองแต่ยอมรับอำนาจของสุโขทัย จึงต้องส่งเครื่องบรรณาการมาถวายและส่งทหารมาช่วยหากสุโขทัยมีคำสั่ง
หลังรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หัวเมืองต่างๆของอาณาจักรสุโขทัยแยกตัวออกไปเกือบหมด นอกจากนี้ความไม่มีเสถียรภาพในการเมืองการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยเปิดโอกาสให้อาณาจักรข้างเคียงเข้ามาแทรกแซงได้ง่าย ดังที่อาณาจักรอยุธยาได้แทรกแซงการเมืองของอาณาจักรสุโขทัยตลอดช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐จนกระทั่งอาณาจักรอยุธยาสามารถผนวกอาณาจักรสุโขทัยได้อย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ. ๒๐๐๖


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น